เก้าอี้สนามกีฬา แบบ Blow และ Injection ต่างกันยังไง?
ความสำคัญของการเลือกเก้าอี้สนามกีฬา สำหรับเจ้าของสถานที่

สำหรับเจ้าของสนามกีฬาและผู้จัดการสถานที่ การเลือกเก้าอี้สนามกีฬาที่เหมาะสมถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้ชม และชื่อเสียงของสนามกีฬาแบบเต็มๆ การมีที่นั่งที่นั่งสบาย แข็งแรง และดูแลรักษาง่าย จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชมและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว นอกจากนี้ เก้าอี้ที่เลือกใช้อย่างถูกต้องยังสะท้อนถึงมาตรฐานและความเป็นมืออาชีพของสนามกีฬา ทำให้ผู้ชมและผู้จัดงานมีความมั่นใจในการกลับมาใช้สถานที่อีกครั้ง
แต่ในการเลือกเก้าอี้สนามกีฬา หรือ เก้าอี้อัฒจันทร์นั้น ในบางครั้งเราอาจต้องดูที่วิธีการผลิต ซึ่งเรามักจะได้ยินเกี่ยวกับเก้าอี้แบบ Molding และ แบบ Injection ซึ่ง ก็มีหลายคนอาจอยากรู้ว่า มันแตกต่างกันยังไง? วันนี้มาหาคำตอบกัน
ทำความรู้จักกระบวนการผลิตเก้าอี้: Blow Molding vs Injection Molding

Blow Molding (การเป่าขึ้นรูปพลาสติก) คือกระบวนการผลิตที่นำเม็ดพลาสติกมาให้ความร้อนจนกึ่งหลอมเหลว จากนั้นเป่าลมเข้าไปในแม่พิมพ์เพื่อให้พลาสติกพองตัวเป็นรูปทรงตามแม่พิมพ์ ผลลัพธ์ที่ได้คือชิ้นงานพลาสติกที่มีโพรงกลวงภายใน ทำให้เก้าอี้สนามกีฬาแบบ Blow Molding มีน้ำหนักเบาแต่มีโครงสร้างที่แข็งแรงเหมาะกับการทำชิ้นงานขนาดใหญ่และรูปทรงโค้งมน
Injection Molding (การฉีดขึ้นรูปพลาสติก) คือการนำเม็ดพลาสติกมาหลอมเหลวแล้วฉีดเข้าแม่พิมพ์ด้วยแรงดันสูง กระบวนการนี้ทำให้พลาสติกอัดแน่นไปในแม่พิมพ์และแข็งตัวกลายเป็นชิ้นงานตามรูปทรงของแม่พิมพ์ ตามที่ดีไซน์เอาไว้ เก้าอี้สนามกีฬาที่ผลิตด้วยวิธีนี้จะมีชิ้นส่วนเนื้อแข็ง ไม่มีโพรงอากาศภายใน ทำให้สามารถผลิตเก้าอี้ที่มีรายละเอียดคมชัด ผิวเรียบเนียน และความแม่นยำสูงตามแม่พิมพ์ได้มากกว่า
เปรียบเทียบเก้าอี้ Blow Molding และ Injection Molding

ความทนทาน (Durability)
เก้าอี้สนามกีฬาแบบ Blow Molding มีชื่อเสียงในด้านความทนทานสูง เหตุผลหนึ่งคือกระบวนการเป่าขึ้นรูปช่วยลดความตึงเครียดภายในเนื้อพลาสติก ทำให้เก้าอี้ประเภทนี้ทนต่อแรงกระแทกได้ดีและไม่เปราะแตกง่ายอีกทั้งมักผลิตจากวัสดุอย่างเช่น HDPE ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่และผสมสารป้องกันรังสี UV ช่วยยืดอายุการใช้งานกลางแดดให้ยาวนานขึ้น สีไม่ซีดจางและเนื้อพลาสติกไม่กรอบแตกแม้ผ่านการใช้งานหลายปี
ในทางกลับกัน เก้าอี้สนามกีฬาแบบ Injection Molding ก็มีความแข็งแรงเช่นกัน แต่ความทนทานอาจขึ้นอยู่กับเกรดวัสดุที่ใช้ (เช่น PP หรือพลาสติกผสมไฟเบอร์กลาส) และการออกแบบโครงสร้างของเก้าอี้ เนื่องจากการฉีดพลาสติกบางรุ่นอาจมีความแข็งแต่เปราะกว่าเมื่อรับแรงกระแทกหนักๆ หากวัสดุหรือความหนาไม่เพียงพอ อย่างไรก็ดี หากเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง เก้าอี้แบบ Injection ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานใกล้เคียงกัน
การดูแลรักษา (Maintenance)
ในแง่ของการดูแลรักษา ทั้งเก้าอี้ Blow Molding และ Injection Molding ต่างก็ถือว่าเป็นวัสดุที่ดูแลง่ายเมื่อเทียบกับเก้าอี้ไม้หรือโลหะ เพราะพลาสติกไม่เป็นสนิมและทำความสะอาดด้วยน้ำหรือผ้าได้ง่าย อย่างไรก็ตาม เก้าอี้แบบ Blow Molding ที่เป็นชิ้นงานพลาสติกกลวงชิ้นเดียวมักไม่มีส่วนประกอบย่อยหรือจุดเชื่อมต่อมาก ทำให้มีจุดที่สึกหรอหรือแตกหักน้อย การตรวจเช็กสภาพจึงทำได้ง่ายและไม่ค่อยเจอปัญหาแตกหักของโครงสร้าง ส่วนเก้าอี้แบบ Injection Molding บางรุ่นอาจประกอบด้วยหลายชิ้นส่วน (เช่น เบาะนั่งและพนักพิงแยกส่วนแล้วยึดติดกัน) ซึ่งอาจต้องตรวจสอบจุดยึดหรือสกรูเป็นระยะ แต่โดยรวมแล้วเก้าอี้ทั้งสองประเภทต้องการการดูแลรักษาต่ำ ใกล้เคียงกัน สิ่งที่ควรทำคือการทำความสะอาดเป็นประจำและหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่อาจขูดขีดผิวพลาสติก
ราคาโดยประมาณ (Cost)
เรื่องงบประมาณเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ เก้าอี้สนามกีฬาแบบ Injection Molding มักเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในแง่ราคาต่อหน่วยสำหรับโครงการที่ต้องการที่นั่งจำนวนมาก โดยเก้าอี้สนามกีฬาพลาสติกมาตรฐาน (ที่พบได้ทั่วไปตามสนามฟุตบอลหรือสนามเทศบาล) มีราคาเริ่มต้นประมาณ 300-400 บาทต่อที่นั่ง ขึ้นอยู่กับรูปแบบและเกรดวัสดุ ในขณะที่เก้าอี้สนามกีฬาแบบ Hollow Blow Molding ซึ่งผลิตจาก HDPE คุณภาพสูงที่ออกแบบมาสำหรับการติดตั้งถาวร จะมีช่วงราคาขายส่งอยู่ประมาณ 200 – 900 บาทต่อที่นั่งทั้งนี้ ราคาที่แตกต่างขึ้นอยู่กับคุณภาพของเม็ดพลาสติก โครงสร้างการออกแบบ และจำนวนการสั่งซื้อ ยิ่งสั่งมากราคาต่อหน่วยก็ยิ่งลดลง เจ้าของสนามกีฬาจึงควรสอบถามผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายเพื่อขอใบเสนอราคาที่แน่นอนตามความต้องการเฉพาะของตน
การใช้งานที่เหมาะสมของเก้าอี้แต่ละประเภท

เนื่องจากคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เก้าอี้ทั้งสองแบบจึงมีความเหมาะสมกับการใช้งานในสถานการณ์ที่ต่างกัน:
เก้าอี้สนามกีฬาแบบ Blow Molding เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการติดตั้งถาวรในสนามกีฬากลางแจ้งหรือสนามฟุตบอลที่ต้องเผชิญกับแดดและฝนเป็นประจำ เนื่องจากวัสดุมีความทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีและมีอายุการใช้งานยาวนาน นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในสนามกีฬาของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น อัฒจันทร์สนามเทศบาล หรือสนามกีฬาของโรงเรียน/มหาวิทยาลัย เพราะน้ำหนักที่เบาช่วยลดภาระโครงสร้างและติดตั้งได้ง่าย อีกทั้งสามารถใช้ได้ทั้งพื้นที่กลางแจ้งและในร่มอย่างยืดหยุ่น
เก้าอี้สนามกีฬาแบบ Injection Molding เหมาะสำหรับสนามกีฬาในร่ม (indoor arena) หรือพื้นที่ที่มีหลังคาคลุม ซึ่งความเสี่ยงจากแสงแดดและฝนลดลง เก้าอี้ประเภทนี้มักถูกเลือกใช้ในโครงการที่มีงบประมาณจำกัดหรือความต้องการที่นั่งชั่วคราว/ถอดเก็บได้ เช่น อัฒจันทร์ชั่วคราวสำหรับงานอีเวนต์หรือสนามกีฬาขนาดเล็ก เนื่องจากสามารถผลิตได้รวดเร็วและต้นทุนต่อหน่วยค่อนข้างประหยัด เก้าอี้ Injection Molding หลายรุ่นสามารถถอดซ่อมแซมหรือเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนได้ง่ายหากเกิดความเสียหาย ทำให้สะดวกในการบำรุงรักษาเมื่อใช้งานในระยะสั้นหรือเป็นครั้งคราว
แล้วเจ้าของสนามควรเลือกแบบไหนดี?
โดยสรุปเก้าอี้สนามกีฬาแบบ Blow Moldingและแบบ Injection Moldingต่างก็มีข้อดีเฉพาะตัว เจ้าของสนามกีฬาควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพแวดล้อมของสนาม (กลางแจ้งหรือในร่ม) งบประมาณที่มี และระยะเวลาการใช้งาน หากสนามกีฬาเป็นกลางแจ้งและต้องการความทนทานสูงในระยะยาว เก้าอี้แบบ Blow Molding อาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าเพราะทนแดดฝนและแรงกระแทกได้ดี แต่ถ้าต้องการเก้าอี้สำหรับใช้งานในร่มหรืองบประมาณจำกัด เก้าอี้แบบ Injection Molding ซึ่งมีราคาต่ำกว่าและผลิตได้เร็วกว่า
ในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย แนะนำให้เจ้าของสนามกีฬาลองเปรียบเทียบตัวอย่างสินค้าจริงและสอบถามผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้เก้าอี้ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพและงบประมาณ ทั้งนี้ท่านสามารถเข้าชมสินค้าในหมวด Stadium Chair ของ Chairing Group ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบ Blow Molding และ Injection Molding เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงสามารถขอใบเสนอราคาที่เหมาะสมกับโครงการ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยให้ท่านตัดสินใจเลือกซื้อเก้าอี้สนามกีฬาได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด
ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม หรือขอใบเสนอราคา?
ทีมงาน Chairing Group ยินดีให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเก้าอี้สนามกีฬาทั้งแบบ Blow และ Injection
แนะนำรุ่นที่เหมาะกับงบประมาณและลักษณะสนามของคุณ