เปลือกเก้าอี้อัฒจันทร์ มีกี่แบบ? สำคัญกับสนามกีฬายังไงบ้าง?

เวลาออกแบบอัฒจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นสนามกีฬาจังหวัด สนามโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรืออาคารเอนกประสงค์ของ อบจ. คนส่วนใหญ่มักโฟกัสแค่จำนวนที่นั่ง สีเก้าอี้ และงบประมาณต่อที่นั่ง แต่ “หัวใจจริงๆ” ที่จะบอกว่าที่นั่งชุดนั้นจะอยู่กับสนามได้นานแค่ไหน คือ เปลือกเก้าอี้ (Seat Shell) ว่าเลือกใช้แบบไหน และผลิตด้วยกระบวนการอะไร

ในตลาดตอนนี้ เปลือกเก้าอี้อัฒจันทร์หลักๆ มีสองตระกูลใหญ่ คือแบบ หล่อขึ้นรูปชิ้นเดียว (Monoblock / Monolithic Shell) กับแบบ ประกอบหลายชิ้น (Assembly Shell) ซึ่งแต่ละแบบมีทั้งข้อดี ข้อจำกัด และผลกระทบต่อค่าดูแลระยะยาวต่างกันชัดเจน ซึ่งเราจะมาดูกัน ว่าทำไม “ชิ้นเดียวหรือหลายชิ้น” ถึงไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์ แต่เกี่ยวกับวิศวกรรม ความปลอดภัย และเงินก้อนใหญ่ตลอดอายุสนาม


เปลือกเก้าอี้อัฒจันทร์คืออะไร และมีแบบไหนบ้าง?

เปลือกเก้าอี้ คือส่วนที่ร่างกายผู้ชมสัมผัสโดยตรง ทั้งเบาะนั่งและพนักพิง เวลาแฟนบอลลุก นั่ง โห่เชียร์ กระทบกระแทก ทุกแรงจะส่งผ่านเข้ามาที่เปลือกชิ้นนี้ก่อน ชิ้นเดียวนี้แหละที่ต้องรับทั้งน้ำหนักคน อารมณ์แฟนกีฬา และสภาพอากาศกลางแจ้งไปพร้อมๆ กัน

เปลือกหล่อขึ้นรูปชิ้นเดียว (Monoblock / Monolithic Shell)

คำว่า Monoblock ง่ายๆ คือ เบาะกับพนักเป็นชิ้นเดียวกันทั้งแผง ไม่มีงานต่อ ไม่มีชิ้นส่วนยึดระหว่างกัน เป็นพลาสติกขึ้นรูปจากแม่พิมพ์เดียว ส่วนใหญ่ใช้พลาสติกเกรดสูงอย่าง HDPE หรือ PP ที่ผสมสารกัน UV แล้ว ทำให้เหมาะกับการติดตั้งถาวรบนขั้นอัฒจันทร์ที่ต้องเจอแดด ลม ฝน ตลอดปี

ใน Monoblock เองยังแยกย่อยออกเป็นสองสาย คือ

  • แบบฉีด (Injection Moulding) – โครงสร้างแน่น แข็ง แต่ถ้าเจอแรงกระแทกรุนแรงมากๆ มีโอกาสแตกร้าวเป็นเส้นได้

  • แบบเป่า (Blow Moulding) – ด้านในเป็นโพรงกลวง ไร้รอยต่อ ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดีมาก จึงเหมาะกับสนามที่ต้องรับมือการก่อกวนหรือการใช้งานหนัก

เปลือกแบบประกอบหลายชิ้น (Assembly Shell)

ส่วน Assembly Shell จะเป็นระบบที่ประกอบจากหลายชิ้น เช่น เบาะ พนัก โครงยึด แขนรับน้ำหนัก สลักเกลียว น็อต สเปเซอร์ ฯลฯ วัสดุอาจผสมกันได้ทั้งพลาสติก เหล็ก อะลูมิเนียม ข้อดีคือ ปรับแต่งได้เยอะ เช่น ใส่เบาะบุ เพิ่มกลไกพับ หรือทำเก้าอี้ Premium สำหรับโซน VIP

แต่ในมุมวิศวกรรม ทุกจุดที่มีการขันน็อตหรือยึดสกรู จะกลายเป็น “จุดรวมความเครียด” (Stress Concentration) ถ้าเก้าอี้รับแรงกระแทกซ้ำๆ จากการลุกนั่งและการเชียร์ ความเครียดจะไปกองอยู่ที่จุดต่อเหล่านี้ ก่อนเริ่มแตกร้าวจากตรงนี้เป็นที่แรก


ทำไม Monoblock ถึงอึดกว่าในสนามจริง?

โครงสร้างที่ไม่มีรอยต่อ ทำให้จุดแตกน้อยลง

ถ้าเปรียบเก้าอี้เป็นตัวคน Monoblock ก็คือกระดูกสันหลังชิ้นเดียว ไม่มีข้อที่เป็นจุดเปราะ เวลาเจอแรงจากฝูงชน โครงสร้างทั้งชิ้นช่วยแบ่งแรงกันรับ จึงมีโอกาสแตกร้าวน้อยกว่า Assembly ที่มีจุดยึดหลายจุด พอมีน็อต มีรอยต่อ แรงที่มากระแทกจึงไปจบอยู่ที่บริเวณนั้น ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของรอยร้าวได้ง่าย

Blow Moulded Monoblock: “ไส้ในกลวง” ที่ช่วยเซฟโครงสร้าง

สำหรับสนามที่ต้องเจอแฟนบอลอารมณ์ดุเดือดหรือคอนเสิร์ตที่คนลุกกระแทกเก้าอี้ตลอด การเลือก Monoblock แบบเป่า (Blow Moulding) จะยิ่งได้เปรียบ เพราะโครงสร้างกลวงภายในช่วยดูดซับแรงแทนที่จะส่งแรงเต็มๆ ไปที่ผิว ทำให้ไม่ค่อยมีเรื่องแตกร้าวจากแรงกระแทก แม้จะใช้งานหนักหลายฤดูกาล

UV, ฝน, อากาศสุดขั้ว – กลางแจ้งเมืองไทยต้องเอาอยู่

สนามกลางแจ้งในไทยต้องเจอทั้งแดดแรงและฝนจัด ถ้าเปลือกเก้าอี้ใช้พลาสติกที่ไม่ได้ผสมสารกัน UV ไม่นานสีจะซีด พลาสติกเปราะ แตกง่าย ผู้ผลิต Monoblock คุณภาพดีจึงมักระบุชัดว่าใช้ HDPE/PP พร้อมสาร Additive กัน UV ผ่านการทดสอบ Weathering ว่าอยู่กลางแจ้งได้เป็นสิบปีโดยสีและโครงสร้างยังนิ่ง

ส่วน Assembly Shell จะซับซ้อนกว่า เพราะแม้พลาสติกบางชิ้นจะทน UV แต่ถ้าบริเวณจุดต่อไม่ได้ออกแบบให้ดี แรงจากการขยายตัว–หดตัวของวัสดุเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนก็ไปลงที่สกรูและจุดยึด ทำให้เกิดรอยแตกตรงจุดนั้นอยู่ดี


เรื่องหน้างาน: ติดตั้ง ล้างทำความสะอาด และดูแลระยะยาว

ติดตั้งสนามนึง ใช้เวลาต่างกันกี่วัน?

เก้าอี้ Assembly ต้องประกอบชิ้นส่วนย่อยก่อนติดตั้งจริง ช่างต้องใส่สเปเซอร์ วางเบาะ ยึดน็อตหน้าแปลน ตรวจเช็กระดับให้ตรงกันทุกตัว สำหรับสนามที่มีหลายหมื่นที่นั่ง ชั่วโมงแรงงานจะพุ่งขึ้นแบบทวีคูณ ต่างจาก Monoblock ที่ยกชิ้นเดียวขึ้นไปยึดกับพื้นอัฒจันทร์ได้เลย ขั้นตอนน้อยกว่า ความเสี่ยงงานช้าเพราะติดตั้งไม่ทันก็ลดลงตามไปด้วย

หลังจบแมตช์ – ใครเคยล้างอัฒจันทร์จะเข้าใจดี

ทุกครั้งที่จบเกมหรือคอนเสิร์ต ทีมทำความสะอาดต้องเก็บทั้งเศษถุงขนม ขวดน้ำ เบียร์หก เหล้าเลอะ ถ้าเป็น Assembly Shell จะมีรอยต่อ ช่องว่างรอบสกรู และมุมแคบๆ ให้เศษเหล่านี้ไปติดอยู่ ทำให้ต้องใช้ทั้งเครื่องดูดฝุ่นและฉีดน้ำแรงดันสูง ใช้เวลาเคลียร์ 1 แถว นานกว่าที่ควรจะเป็น

แต่ Monoblock ที่ผิวเรียบและไร้ตะเข็บ แค่ฉีดล้างทีเดียวก็ไหลออกหมด ลดทั้งแรงและเวลาคนทำงานไปได้เยอะมาก ยิ่งถ้าสนามมีตารางแข่งขันถี่ การที่ทีมทำความสะอาดเคลียร์ที่นั่งได้เร็วคือความต่างที่สัมผัสได้จริง

ซ่อมทีละชิ้น vs แทบไม่ต้องซ่อม

จุดเด่นของ Assembly คือเวลาเก้าอี้เสียหาย สามารถเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนนั้น เช่น พนักพิงหรือชุดสกรู แต่แลกกับการต้องมีสต๊อกอะไหล่หลายรหัส ต้องจัดการคลังให้ดี ไม่อย่างนั้นหาของไม่เจอ หายชุดเดียวก็ซ่อมเก้าอี้ตัวนั้นไม่ได้อยู่ดี

ด้าน Monoblock แนวคิดคือ “ใช้ทนๆ ไปเลย” ไม่ต้องมีอะไหล่ยิบย่อย การดูแลส่วนใหญ่จะเป็นการทำความสะอาดและอาจมีงานฟื้นฟูสีในอนาคต ซึ่งส่วนมากทำบนที่นั่งได้เลยไม่ต้องรื้อออก การบริหารจัดการเลยง่ายกว่าเยอะ


สรุปเปรียบเทียบ Monoblock vs Assembly แบบเห็นภาพ

หัวข้อเปรียบเทียบ เปลือกหล่อชิ้นเดียว (Monoblock) เปลือกแบบประกอบ (Assembly Shell)
โครงสร้าง ชิ้นเดียวไร้รอยต่อ รับแรงกระแทกกระจายทั่วทั้งตัว หลายชิ้นต่อกัน มีจุดยึด–รอยต่อหลายตำแหน่ง
ความทนแรงกระแทก แบบ Blow Moulded ทนมาก ดูดซับแรงได้ดี เหมาะกับสนามใช้งานหนัก เสี่ยงแตกร้าวตรงจุดยึดและสกรู ถ้าเจอแรงซ้ำๆ
ความเสี่ยงความล้า (Fatigue) ต่ำ เพราะไม่มี “จุดรวมความเครียด” ที่ข้อต่อ สูงกว่า มี Hot Spot Stress ที่จุดยึดทุกจุด
การติดตั้ง ขั้นตอนน้อย ติดตั้งเร็ว ลดชั่วโมงแรงงาน ต้องประกอบหลายชิ้น ตรวจระดับแต่ละตัว ใช้แรงงานมาก
การทำความสะอาด พื้นผิวเรียบ ล้างง่าย ฉีดน้ำทีเดียวจบ เศษขยะและคราบค้างตามร่อง–รอยต่อ ต้องใช้เวลาทำความสะอาดมาก
การซ่อมบำรุง เน้นดูแลภาพรวม สี และความสะอาด แทบไม่ต้องเปลี่ยนชิ้นย่อย เปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนได้ แต่ต้องบริหารสต๊อกอะไหล่หลายรายการ
ต้นทุนตลอดอายุการใช้งาน CAPEX คุ้มเมื่อสั่งจำนวนมาก และ OpEx ต่ำจากการติดตั้ง–ทำความสะอาดที่ง่าย CAPEX และ OpEx สูงกว่า จากงานแรงงานซับซ้อนและการซ่อมตามจุดต่อ

วางแผนเก้าอี้อัฒจันทร์ครั้งหน้า เลือกสเปกเปลือกให้เหมาะตั้งแต่แบบร่าง

สำหรับสนามกีฬา โรงเรียน หรืออาคารเอนกประสงค์ที่ต้องการที่นั่งพร้อมใช้งานยาวๆ 10–20 ปี การเลือกเปลือกเก้าอี้แค่จากราคาอย่างเดียวอาจทำให้เจอค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงตามมาไม่รู้จบ การระบุสเปก Monoblock แบบ Blow Moulded พร้อมเม็ดพลาสติก HDPE/PP กัน UV ตั้งแต่ใน TOR ช่วยล็อกทั้งความแข็งแรง ความปลอดภัย และต้นทุนระยะยาวให้อยู่ในกรอบที่คุมได้

ถ้าต้องการทีมที่ช่วยออกแบบระบบที่นั่งทั้งเซต ตั้งแต่รูปทรงเปลือก สี ไปจนถึงการจัดวางบนอัฒจันทร์จริง ลองคุยกับทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำเก้าอี้อัฒจันทร์ให้สนามทั่วประเทศอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกกับโครงสร้างที่ต้องอยู่กับพื้นที่ไปอีกหลายสิบปี

พูดคุยเรื่องสเปกเปลือกเก้าอี้อัฒจันทร์กับทีม Chairing Group